Tuesday, 21 March 2023

รู้จัก “จันทรุปราคาเต็มดวง” คืนวันลอยกระทง 8 พ.ย.65 พลาดแล้วต้องรออีก 3 ปี

รู้จัก “จันทรุปราคาเต็มดวง” เห็นดวงจันทร์เป็นสีแดง ในคืนวันลอยกระทง 8 พฤศจิกายน65 พลาดครั้งนี้ ต้องคอยดูอีกที 3 ปีข้างหน้า หรือวันที่ 8 เดือนกันยายน 2568

วันที่ 7 พ.ย. 2565 แฟนเพจ NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ โพสต์ใจความว่า จันทรุปราคา (Lunar Eclipses)ปรากฏการณ์ราหูอมจันทร์ เป็นปรากฏการณ์ที่ดวงอาทิตย์ โลก และก็ดวงจันทร์โคจรมาอยู่ในแนวระนาบเดียวกัน โดยมีโลกอยู่ตรงกลางระหว่างดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์ เกิดขึ้นเฉพาะในวันดวงจันทร์เต็มดวง หรือ ช่วงข้างขึ้น 14-15 ค่ำ ขณะที่ดวงจันทร์โคจรผ่านเข้าไปในเงามืดของโลกที่ทอดไปในอวกาศ ผู้สังเกตบนโลกจะมองเห็นดวงจันทร์เว้าแหว่งไปเรื่อยจนถึงดวงจันทร์เข้าไปอยู่ในเงามืดทั้งยังดวง และก็เริ่มมองเห็นดวงจันทร์

วันลอยกระทงเว้าแหว่งอีกทีหนึ่งเมื่อดวงจันทร์เขยื้อนออกมาจากเงามืดของโลก คนไทยสมัยโบราณเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “ราหูอมจันทร์”

เงาของโลกที่ทอดไปในอวกาศแบ่งเป็น 2 ประเภท เป็นต้นว่า “เงามัว (Penumbra Shadow)” เป็นเงาส่วนนอกสุด เมื่อดวงจันทร์เข้ามาอยู่ในเงาส่วนนี้จะมีความสว่างลดลงนิดหน่อย และ “เงามืด (Umbra Shadow)” เป็นเงาที่มืดสนิท เมื่อดวงจันทร์เข้ามาอยู่ในเงาส่วนนี้จะก่อให้เกิดส่วนมืดเว้าแหว่ง จึงแบ่งประเภทของปรากฏการณ์ราหูอมจันทร์ได้ดังต่อไปนี้

1. จันทรุปราคาเต็มดวง (Total Lunar Eclipse)
เกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์อีกทั้งดวงเขยื้อนเข้าไปอยู่ในเงามืดของโลก จะมองเห็นดวงจันทร์เป็นสีส้มหรือสีแดงอิฐ เพราะแสงขาวจากพระอาทิตย์จะถูกหักเหเมื่อผ่านชั้นบรรยากาศโลก สีแดงและสีส้มเบี่ยงทิศทางเข้าพบกึ่งกลางเงามืด จึงมองเห็นดวงจันทร์เป็นสีแดงระหว่างเกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง

2. จันทรุปราคาบางส่วน (Partial Lunar Eclipse) เกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์เขยื้อนผ่านเงามืดของโลกเพียงแค่บางส่วน โดยจะมองเห็นดวงจันทร์มีลักษณะเว้าแหว่ง

3. จันทรุปราคาเงามัว (Penumbral Lunar Eclipse) เกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์เขยื้อนผ่านเข้าไปเงามัวของโลก โดยไม่ผ่านเงามืด เรายังคงมองเห็นดวงจันทร์เต็มดวง แต่ว่าความสว่างต่ำลง มองเห็นความเปลี่ยนแปลงค่อนข้างยาก

รู้จัก จันทรุปราคา

จันทรุปราคาเต็มดวง คืนวันลอยกระทง 2565

สำหรับปรากฏการณ์ราหูอมจันทร์ในวันอังคารที่ 8 พ.ย. 2565 คืนวันลอยกระทง เป็นปรากฏการณ์ “จันทรุปราคาเต็มดวง” เกิดขึ้นในช่วงราว 15.02 – 20.56 น. (ตามเวลาของไทย) สังเกตได้จากหลายพื้นที่ทั่วโลก เป็นต้นว่า ทวีปยุโรปตอนเหนือและตะวันออก ทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลีย ทวีปอเมริกาเหนือ บางส่วนของทวีปอเมริกาใต้ มหาสมุทรแปซิฟิก มหาสมุทรแอตแลนติก มหาสมุทรอินเดีย ขั้วโลกเหนือ และบางส่วนของขั้วโลกใต้

เมืองไทย ดวงจันทร์จะโผล่พ้นขอบฟ้าทางทิศตะวันออกเวลา 17.44 น. จึงไม่อาจจะสังเกตช่วงแรกของการเกิดปรากฏการณ์ได้ และจะเริ่มเห็นได้ขณะเกิดจันทรุปราคาเต็มดวงพอดี มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าทุกภูมิภาคของเมืองไทย รอบ ๆ ขอบฟ้าทางทิศตะวันออก ตั้งแต่เวลา 17.44 น. เป็นต้นไป ช่วงที่เกิดคราสเต็มดวง ดวงจันทร์จะปรากฏเป็นสีแดงอิฐ จนกระทั่งเวลา 18.41 น. รวมระยะเวลานาน 57 นาที

ปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงเหนือฟ้าเมืองไทยคราวต่อมา จะเกิดขึ้นในอีก 3 ปีข้างหน้า ในวันที่ 8 เดือนกันยายน 2568